เรื่องวิธีการติดตั้ง Google Analytics นั้น ผมเคยเขียนไว้อย่างละเอียดในบทความ วิธีการติดตั้ง Google Analytics อย่างถูกต้อง เข้าใจง่าย ทำได้เอง แต่หลายๆ คนเมื่อการติดตั้งเสร็จแล้วก็ใช้งานเลยทันที ซึ่งต้องบอกว่าการทำเช่นนั้นเราจะยังได้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและไม่ดีเพียงพอต่อการนำไปวิเคราะห์ และมีโอกาสที่จะทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดได้ สำหรับใครที่ติดตั้ง Google Analytics เรียบร้อยแล้ว แนะนำให้ตรวจสอบ 5 เรื่องสำคัญที่จำเป็นต้องทำหลังจากการติดตั้ง ถ้าใครพลาดไปแม้แต่เพียงข้อเดียว ข้อมูลที่ดูอยู่ก็อาจจะไม่ถูกต้องแล้วล่ะครับ
ไม่ได้ตรวจสอบความถูกต้องของการติดตั้ง Google Analytics
หากการติดตั้งทำอย่างไม่ถูกต้องแล้วก็อาจจะทำให้ GA ไม่สามารถเก็บข้อมูลได้เลย หรือเก็บได้ก็จะไม่สมบูรณ์ถูกต้อง ซึ่งการติดตั้งนั้นปกติคำแนะนำคือ ควรต้องใส่โค้ด Google Analytics ในส่วนของแท็กในทุกๆ เพจบนเว็บไซต์ของเรา โดยปกติดีเวลอปเปอร์มักจะใส่ในส่วนของ website header ซึ่วถ้าพอจะรู้เรื่อง HTML อยู่บ้าง การตรวจสอบก็ทำได้ก็ง่ายหน่อย คือ View Source ดูว่าอยู่ถูกที่หรือเปล่า แต่สำหรับคนทั่วไปแล้ว Google ให้เครื่องมือมาตัวหนึ่งที่ใช้ตรวจสอบความถูกต้องของ Analytics Tag เรียกว่า Tag Assistant ซึ่งเป็น Chorme Extension ที่สามารถโหลดมาติดตั้งได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย Google Tag Assistant หลังจากติดตั้งแล้วให้เข้าที่เว็บไซต์ที่เราจะตรวจสอบ แล้วคลิ้กที่ไอคอน Tag Assistant บนทูลบาร์ จะเห็นภาพตามตัวอย่าง ซึ่งหากติดตั้งถูกต้องแล้วจะขึ้นเป็นสีเขียวตามภาพ แต่หากติดตั้งไม่ถูกต้องจะขึ้นไปสีแดงซึ่งสามารถคลิ้กเข้าไปอ่านคำแนะนำการแก้ไขได้อีกด้วย
ไม่ได้เซ็ตอัพ Backup View
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ผมพบว่าเกือบ 100% ของผู้ที่เข้าเรียนในคลาส ไม่ได้มีการเซ็ตอัพ Backup View กันไว้เลย ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก เพราะว่าหากเรามีการคอนฟิกค่าอะไรผิดพลาดแล้ว ข้อมูลใน Analytics อาจจะหายไปได้ทั้งหมด ที่สำคัญคือโดยหลักการทำงานของ Analytics แล้วข้อมูลที่ถูกบันทึกไปแล้ว (หายไปแล้ว) จะไม่สามารถแก้ไขเอากลับมาได้อีกเลย แต่หากเรามี Backup View เราจะยังสามารถดูข้อมูลได้อยู่ ใครที่ยังไม่เข้าใจเรื่อง View และโครงสร้างของ Google Analytics Account ควรอ่าน โครงสร้างของ google analytics account
ขาดการทำเรื่อง Data Cleansing
เมื่อ Google เก็บข้อมูลได้แล้ว หลายคนก็ใช้ข้อมูลนั้นในการวิเคราะห์ทันที ซึ่งผมตอบได้เลยว่า ‘ผิดพลาด‘ อย่างมาก และจะนำมาซึ่งผลการวิเคราะห์ที่ผิดและลามไปถึงการตัดสินใจที่ผิด คำถามคือ ผิดตรงไหนในเมื่อการติดตั้งก็ทำอย่างถูกต้อง และ Google Analytics ก็เก็บข้อมูลได้ตามที่ต้องการแล้ว? ให้ลองคิดง่ายๆ ว่าถ้าเราเป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้อสักร้าน แล้วเรานับทราฟฟิคการเดินเข้าออกร้านของพนักงานรวมถึงตัวเราเองเป็นลูกค้าไปด้วยก็คงจะไม่ถูกต้อง ถ้าหากเป็นเว็บไซต์แล้ว ลองนึกดูว่าบริษัทที่มีพนักงานจำนวนมาก แล้วพนักงานแต่ละคนต้องเข้าเว็บไซต์ของบริษัทวันละหลายๆ ครั้ง คิดดูสิครับว่า Google Analytics จะเก็บข้อมูลทราฟฟิคที่ไม่ถูกต้องนี้ไปจำนวนมากเท่าไร ที่สำคัญคือ สำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซแล้ว เวลามีการทดสอบระบบต่างๆ โดยเฉพาะการสั่งซื้อสินค้า จะมี Transaction ที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้นเท่าไร และค่า Conversion Rate จะยิ่งคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงมากแค่ไหน ดังนั้นเรื่องการทำ Data Cleansing จึงเป็นเรื่องที่สำคัญและเป็นเรื่องใหญ่มาก ซึ่งโดยเบสิคแล้วมีสองเรื่องที่จำเป็นต้องทำดังนี้
- Exclude Bot คือการฟิลเตอร์ทราฟฟิคที่มาจากการ Crawl เว็บไซต์ของเราจาก Google Bot รวมถึง Bot อื่นๆ
- Exclude Internal IP address ข้อนี้สำคัญมากตามที่ได้ยกตัวอย่างมาก่อนหน้านี้ ใครต้องการแก้ไขปัญหานี้ สามารถอ่าน วิธีฟิลเตอร์ทราฟฟิคจาก IP address ของบริษัทออกจาก Google Analytics
ไม่ได้ Link Account ระหว่าง Analytics และ Adwords
สำหรับคนที่ไม่ได้ซื้อโฆษณา Google Adwords นั้นเรื่องนี้ก็ไม่จำเป็นต้องทำ แต่สำหรับคนที่ซื้อโฆษณา Adwords แล้วเรื่องนี้ต้องพูดชัดๆ ว่า “ไม่ทำไม่ได้” เพราะหากเราไม่ลิงค์ Account ทั้งสองเข้าหากัน ทราฟฟิคที่มาจาก Adwords จะเข้ามาอย่างไม่เป็นระเบียบไม่สามารถดูข้อมูลได้ในระดับ Campaign, Adgroup Ads และ Keywords ได้เลย ซึ่งส่งผลให้เราไม่สามารถวัดผลโฆษณาที่เราซื้อได้อย่างละเอียดและไม่สามารถออปติไมซ์ให้เกิดความคุ้มค่าได้สูงสุดตามที่ควรจะเป็น สำหรับการทำ Adwords Linking สามารถอ่านได้จากเว็บไซต์ของ Google Link Analytics and Adwords
ไม่ได้ Link Account ระหว่าง Analytics และ Search Console
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ควรจะต้องทำหลังจากติดตั้ง Google Analytics แล้วเช่นกัน บางคนที่ใช้งาน Search Console อยู่แล้วอาจจะสงสัยว่าการ Link กับ Analytics จำเป็นด้วยหรือ เอาจริงๆ แล้วก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังจำเป็นต้องดูผ่าน Search Console เท่านั้น แต่สำหรับการดูตัวเลขต่างๆ เช่น Impression, click, ctr หรือ position นั้น การลิงค์ Account และดูผ่าน Analytics นั้นให้ข้อมูลเชิงลึกได้มากกว่า เพราะเป็นการนำเอาข้อมูลจากฝั่งของการทำ SEO บน Search Console กับพฤติกรรมการใช้งานบนเว็บไซต์ใน Analytics มารวมเข้าไว้ด้วยกันไว้ใน Landing Page report จะทำให้การวิเคราะห์ใช้งานทำได้กว่าเดิมอย่างมาก ซึ่งสามารถอ่านรายละเอียดได้จากบทความ Google Analytics และ Google Search Console การผสานข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ organic traffic ที่ดีกว่าเดิม
ที่กล่าวทั้ง 5 ข้อ แม้ว่าบางเรื่องบางหัวข้ออาจจะไม่ได้ถึงกับเป็นประเด็นที่ซีเรียสมากนัก แต่แน่นอนว่าการวิเคราะห์บนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดนั้นย่อมจะดีกว่าอยู่แล้ว แก้ได้ก็ควรแก้ ทำได้ก็ควรทำ การตัดสินใจจะได้แม่นยำที่สุด เพราะเราต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่า Garbage in, Garbage out ถูกไหมครับ
Happy Analytics !
Facebook Reach ต่ำลงทุกวัน ถ้าชอบกันกด See first ไว้ก่อน