บทความที่แล้วพูดถึงเรื่องที่ Google พยายามบอกให้ทุกเว็บไซต์เปลี่ยนจาก HTTP เป็น HTTPS เว็บไซต์ เพราะไม่เช่นนั้นใน Chrome เวอร์ชั่น 56 ขึ้นไปจะแสดงคำว่า “Not Secure” บน URL bar ในหน้าที่มีการส่งข้อมูลออก ซึ่งตอนนี้หลังจากที่ผมลองอัพเดท Chrome (Version 56.0.2924.87) ปรากฎว่าเป็นไปตามคำมั่นสัญญาจริงๆ ครับ “Not Secure” ขึ้นทันทีกับหน้า Login และหลายบทความทั้งไทยและเทศกล่าวทำนองเดียวกันว่าในอนาคต “Not Secure” จะถูกใช้กับทุกๆ หน้าที่ไม่เป็น HTTPS และที่สำคัญอาจจะขึ้นเป็นตัวอักษรสีแดงกันเลยทีเดียว (ตอนนี้สีเทา)
เชื่อว่าหลายๆ เว็บไซต์ที่ยังไม่ได้เป็น HTTPS คงเริ่มมีแผนในเรื่องนี้กันแล้ว ซึ่งเว็บที่ผมเป็น consult ให้นั้นก็กำลังจะเริ่มทำเรื่องนี้เช่นกัน ก็เลยต้องพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการทำงานและถือโอกาสนำข้อมูลที่น่าสนใจมาแชร์ไว้ในบล็อกนี้ด้วย ซึ่งปัญหาที่พบคือ การทำ HTTPS นั้นไม่ใช่แค่ว่าเปลี่ยนเสร็จแล้วจบงานกันไป เพราะการเปลี่ยน HTTPS นั้นมีผลกระทบและเกี่ยวพันกับการทำ SEO อยู่ในหลายๆ ประเด็น บทความนี้จึงขอสรุปเรื่องที่ต้องทำหลังจากมีการเปลี่ยนเป็น HTTPS แล้ว เพื่อให้คนที่ทำ SEO ได้อ่านไว้เป็นแนวทางการทำงานต่อไป
ก่อนจะมาว่ากันถึงสิ่งที่ต้องทำ อย่างแรกที่ควรต้องเข้าใจและถือว่าเป็นเนื้อหาสาระที่สำคัญที่สุดในเรื่องนี้คือ หน้าเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเดียวกัน แต่เข้าได้ทั้ง HTTP และ HTTPS นั้น Google มองว่าเป็นคนละหน้า และมันจะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกกันว่า Duplicated Content ซึ่งเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อการทำ SEO และเรื่องนี้ก็ไปเกี่ยวโยงกับอีกหลายเรื่องซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องที่คนทำ SEO มีความจำเป็นต้องเข้าไปแก้ไขให้เรียบร้อย
เรื่องที่ต้องตรวจสอบแก้ไขเมื่อมีการเปลี่ยนเว็บไซต์เป็น HTTPS
- แก้ไข Internal Link ทั้งหมดบนเว็บไซต์
สิ่งที่ต้องทำสำหรับเรื่องนี้คือการตรวจสอบลิงค์ทุกลิงค์บนทุกหน้าเว็บไซต์ แล้วทำการเปลี่ยน http เป็น https ทั้งหมด (กรณีที่ลิงค์นั้นเป็น absolute url) เพราะหากไม่เปลี่ยนแล้วจะเกิด duplicated content อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว - แก้ไข Canonical Tag
สำหรับข้อนี้ จริงๆ แล้วไม่ต่างจากในข้อแรกนัก วิธีการก็ทำเช่นเดียวกันคือเปลี่ยน http ใน canonical tag ให้เป็น https เท่านั้นเอง การทำเช่นนี้จะช่วยให้ Google ไม่เกิดความสับสนในการจัดทำ index - การทำ 301 redirect
เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ต้องทำเพื่อที่จะส่งลิงค์ที่เชื่อมโยงจากภายนอกที่ยังชี้มาหน้าที่เป็น http ให้ไปที่หน้า https แทน และเป็นการแจ้งให้ Google ทำการจัดเก็บหน้าที่เป็น https แทนหน้าเดิม - สร้าง property ใหม่ใน Google Search Console
Google แนะนำว่าควรจะต้องสร้าง Property ใหม่ขึ้นมาอีกหนึ่ง Property สำหรับเก็บข้อมูลเว็บไซต์ที่เป็น https โดยเฉพาะ - อัพเดท Sitemaps ใน Google Search Console
ให้ทำการอัพเดทไฟล์ Sitemaps ใหม่ในเวอร์ชั่น https รวมไปถึงการอัพเดทไฟล์ sitemap ใน Robots.txt ไฟล์ด้วย - แก้ไข Default URL ใน Google Analytics
การแก้ไข Default URL จะอยู่ในส่วนของ Property Setting ภายใต้ส่วน Admin โดยให้ทำการเปลี่ยนจาก http เป็น https - อัพเดท Social Share Count
ปกติการเปลี่ยนแปลง URL จะส่งผลให้พวกตัวเลข Social Share Count อย่าง Facebook Share หายไป ซึ่งถ้าต้องการจะเก็บตัวเลขเหล่านั้นไว้ แนะนำให้หาข้อมูลเพิ่มเติมจาก Social Network แต่ละแพลตฟอร์ม - อัพเดท URL ทั้งหมดที่ใช้ในการทำ Advertising และ Marketing
ให้เปลี่ยนไปใช้ https กับ URL ทั้งหมดในใช้กับการซื้อโฆษณา เช่น Google Adwords, Facebook Ads และ Publisher ต่างๆ รวมถึง email marketing ที่ทำด้วย - อัพเดท Tools ต่างๆ ที่ใช้กับเว็บไซต์ทั้งหมด
อย่าลืมที่จะตรวจสอบเครื่องมือทั้งหมดที่ใช้กับเว็บไซต์ เช่น A/B testing tools, Heat map tools และอื่นๆ ว่ามีความจำเป็นต้องแก้ไข URL ให้เป็น https หรือไม่
Happy Optimaization