Ahrefs แพลตฟอร์มเครื่องมือทำ SEO กำลังสร้าง Search Engine ของตัวเองแล้ว

ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องตลกอยู่สักหน่อยที่เมื่อสองสามวันก่อน CEO ของ Ahrefs เครื่องมือด้าน SEO ชื่อดัง ที่หลายคนก็น่ากำลังใช้งานกันอยู่ ออกมาประกาศผ่าน Twitter ว่า กำลังทำ Search Engine ของตัวเองออกมาแข่งกับ Google ถ้าสิ่งที่เขา tweet ออกมานี้เป็นวันที่ 1 April หรือ April fool day หลายคนก็อาจจะคิดว่าเค้าล้อเล่นเป็นแน่ แต่ดูจากข่าวแล้ว คราวนี้น่าจะเอาจริงล่ะครับ

เครื่องมือค้นหา-search-enging-ahrefs-vs-goolge

Dmitry Gerasimenko ให้เหตุผลไว้ 2 ข้อในการทำ Search Engine ออกมาชนกับ Google ซึ่งฟังดูก็เข้าที และน่าสนใจมากเลยทีเดียวละครับ

เหตุผลแรก : Privacy

เขาบอกว่าเป็นสิ่งที่ตอนนี้ทุกคนกำลังให้ความสนใจ ซึ่งก็คือเรื่อง Privacy หรือความเป็นส่วนตัว พูดง่ายๆ ก็คือไม่เก็บข้อมูลการค้นหาของเราไปใช้สร้างผลกำไร และเขาเขียนไว้ค่อนข้างตรงไปตรงมาว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ Google ไม่ต้องการแก้ไข ตรงนี้ขยายความอีกนิดนะครับว่า เราอาจจะเห็นข่าวเรื่อง GDPR หรือ General Data Protection Regulation กันอยู่บ้าง แต่สุดท้ายทุกเว็บไซต์ก็บังคับกลายๆ ให้เรากด accept ยอมรับการเก็บข้อมูล เพราะไม่เช่นนั้นก็อาจะไม่สามารถอ่านเนื้อหาต่อได้

คำถามคือ แล้วในการ Search ของเราทุกคน Google เอา Data และข้อมูลต่างๆ ที่เราค้นหาไปใช้ทำอะไรบ้าง ยกตัวอย่างอันนึงที่ค่อนข้างชัดเจนเลยก็คือ การเอาคำ Search Terms ที่เราค้นหา หรือหน้าเว็บไซต์ที่เราเข้าไปดูหลังจากค้นหา ไปสร้างเป็น Audience สำหรับการทำ Ad Targeting พูดง่ายๆ คือยิงโฆษณาไปหานั่นแหละครับ หลายคนที่ซื้อโฆษณา Google Ads ก็คงพอเข้าใจเรื่องนี้ดีจากการซื้อโฆษณา GDN แบบใช้ Custom Intent Audience หรือกระทั่งการซื้อ Youtube Ads แบบ Target Keyword (ขออนุญาติไม่ลงรายละเอียด) คำถามถัดไปคือ อันนี้ถือว่าเป็นละเมิด Privacy ไหม เรื่องนี้ผมก็ไม่ขอฟันธงนะครับ คือถ้าโฆษณาที่ส่งมาหาเรามันมีประโยชน์กับเราจริงๆ ผมก็ถือว่าโอเค อีกอย่าง Google ก็มีฟีเจอร์ให้เรา Opt-out อยู่แล้ว ถ้าใครไม่อยากเห็น Ads อะไรก็ไป Opt-out ซึ่งก็มีสิทธ์ทำได้ครับ

สิ่งที่ Ahrefs กล่าวไว้คือ เค้าจะใช้ Model เดียวกับ DuckDuckGo ซึ่งเป็น Search Engine ทางเลือกอีกตัวหนึ่งที่น้อยคนคงรู้จัก แต่จุดแข็งของมันคือ เรื่อง Privacy นี่แหละครับ ที่เค้ายืนยันว่า ไม่มีการเก็บข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งหลายคนที่ต้องการ Privacy มากๆ ก็จะหนีมาใช้ตัวนี้กัน ใครสนใจก็ทดลองใช้กันดูนะครับ เข้าหน้าแรกปุ๊บก็ป๊อปอัพชัดเจนเลยว่า Your data should’t be for sale ก็ไม่รู้ว่าจริงแล้ว Privacy จริงหรือเปล่านะครับ

duckduckgo-search-engine

เหตุผลที่สอง : Profit Sharing

Profit Sharing กับ Publishers ย้ำนะครับ Publishers ไม่ใช่ Advertisers พูดง่ายๆ เลยคือ เขากล่าวว่าจะแบ่ง 90% ของ Profit ไปให้ Publishers หรือ Content Creator ที่ถูก Index ไว้และแสดงผลใน Search Engine ของเขา ความหล่ออยู่ตรงนี้แหละครับ เหตุผลคือ เขาต้องการให้เกิดการแข่งขันกันทำ Content คุณภาพดีออกมา ฟังดูเข้าทีนะครับ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบรายละเอียดชัดเจนว่ากำไรจากส่วนไหน และแบ่งกำไรอย่างไร

ความจิกกัดของ Dmitry ในเรื่องนี้ก็คือ เขาแซะว่า ถ้า Publiser สามารถทำเงินให้เว็บไซต์อยู่รอดได้ Wikipedia คงไม่ต้องทำแบนเนอร์ขอรับบริจาคเงินบนหน้าเว็บไซต์หรอกครับ ก็ว่ากันไป 5555

แล้วจะสู้ Google ไหวไหมนะ

อันนี้ก็คงต้องรอดูกันไปก่อน แต่ถามว่าจะทำออกมาได้ดีหรือเปล่า หลายบทความก็เชื่อว่า ด้วยข้อมูลที่ Ahrefs มีทั้งหมดที่เกิดจากการ Crawl เว็บไซต์จำนวนมหาศาล และประสบการณ์ที่ผ่านมาในเรื่องของ Search Ranking นั้น Ahrefs ก็น่าจะทำออกมาได้ไม่ขี้เหร่ล่ะครับ 🙂

Leave a Reply