ตัวอย่าง SEO report ที่ดี ควรมีข้อมูลและโครงสร้างอย่างไร

การทำงานทุกอย่างไม่ว่าจะธุรกิจใดก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่อย่างสม่ำเสมอคือ การ Monitor ตรวจสอบผลลัพธ์ และความคืบหน้าของการทำงาน หรือเรียกว่าการติดตามวัดผลนั่นแหละครับ ซึ่งนั่นทำหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีการออกแบบวางโครงสร้างรีพอร์ท ไม่ว่าจะเป็น รายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน

ปัญหาอย่างหนึ่งของการทำและพรีเซนต์รีพอร์ท ก็คือ การรายงานเป็นตัวเลขมักจะเป็นการบอกว่าอะไรดีขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ แย่ลงกี่เปอร์เซ็นต์ แล้วก็จบกันไป คือบอกแต่ “What” อย่างเดียว ไม่ได้บอก “Why” สิ่งที่ธุรกิจหรือคนที่ฟังเราพรีเซนต์ต้องการนั้นก็คือ “เหตุผล” และ “คำแนะนำ”  จากตัวเลขเหล่านั้นต่างหาก ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า เพราะตัวเลขใครๆ ก็อ่านเองได้แต่ไม่ค่อยจะเกิดประโยชน์ ถูกไหมครับ

SEO รีพอร์ท เป็นหนึ่งในตัวอย่างรายงานที่เต็มไปด้วยตัวเลขมากมาย รวมถึงศัพท์เทคนิคต่างๆ ที่ต้องเข้าใจมาก่อน ซึ่งหากวางโครงสร้างรายงานไม่ดีแล้ว อาจจะทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากรายงานได้เต็มที่ ทั้งที่ต้องใช้เวลาทำกันไม่น้อย บทความนี้ผมขอยกตัวอย่างรายงาน SEO จากบทความในเว็บไซต์ของ Moz.com ที่ถูกออกแบบวางโครงสร้างได้ค่อนข้างดีมาให้ดูกัน (สามารถคลิ้กที่รูปเพื่อดูรูปขยาย)

SEO-report-template

3 ส่วนสำคัญของโครงสร้าง SEO report

  1. KPIs

    รายงานในส่วนแรกนี้จะแสดงให้เห็นข้อมูลสำคัญด้าน performance ซึ่ง 2 เมทริคสำคัญก็คือ Organic traffic (ตัวเลข session ที่มาจาก Organic Search) และ Goals ได้แก่ Transaction หรือ Revenue ซึ่งถือเป็นเป็นเป้าหมายหลักจริงๆ ของธุรกิจ เพราะคงไม่มีใครอยากทำ SEO เพียงเพื่อต้องการให้มีคนเข้าเว็บไซต์เยอะๆ แล้วจบเท่านั้น

  2. Leading Indicators

    ข้อมูลในส่วนนี้จะเป็นข้อมูลที่เอาไว้ใช้ support ข้อมูลในส่วน KPIs ว่าทำไมผลลัพธ์ถึงออกมาเช่นนั้น ส่วนนี้แหละครับคือ “เหตุผล” ที่ผู้ฟังอยากรู้ ซึ่งเป็นสิ่งผมพูดถึงไว้ในช่วงต้น ตัวอย่างของรีพอร์ทแยกแสดงข้อมูลเป็นส่วนของ Landing page ที่ทำการออปติไมซ์ และกลุ่มของ keywords และ Ranking ซึ่งถือว่าเป็นคีย์สำคัญของการเติบโตของ Organic traffic

  3. Nice to know

    ส่วนสุดท้ายคือ จำนวน Index ที่ Google ทำการจัดเก็บ และ User engagement ได้แก่ค่าต่างๆ เช่น Bounce rate, Page per session, Session duration เป็นต้น ซึ่งส่วนนี้แม้ว่าจะแค่ “Nice to know” section แต่ก็ถือว่ามีความสำคัญมาก โดยเฉพาะจำนวน Index ซึ่งมีผลโดยตรงกับ Organic traffic ที่จะเพิ่มขึ้น

  4. Bonus section

    ส่วนนี้เป็นส่วนเพิ่มเติมจาก Standard report ที่ผมขอเรียกว่าเป็น “คำแนะนำ” เพื่อใช้ในการนำเสนอไอเดียใหม่ๆ แล้วกันนะครับ เป็นส่วนที่เปิดโอกาสให้นำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจได้ เช่นตามตัวอย่างจะนำเสนอข้อมูลจาก Google Trends เพื่อแสดงข้อมูลแนวโน้มความสนใจในบางเรื่อง บางคีย์เวิร์ดที่อาจจะใกล้เคียงกับสิ่งที่ธุรกิจให้ความสำคัญ

ลองศึกษาและนำไปปรับใช้กันตามความเหมาะสมนะครับ โดยรวมผมถือว่าดีทีเดียว แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่สามารถเพิ่มเข้าไปได้อีก (ถ้ามีเวลาทำรีพอร์ท) และสุดท้ายขอย้ำกันอีกครั้งว่า ไม่ว่าจะรีพอร์ทใดๆ ก็ตาม “ที่มา” ของตัวเลขนั้น สำคัญกว่าตัวเลขเสมอ เพราะไม่มีใครอยากรู้แค่ตัวเลขโดยไม่มีเหตุผลมารองรับ และที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือ ข้อแนะนำว่าควรต้องทำอะไรต่อไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ตรงนี้ต่างหากคือสิ่งที่ธุรกิจหรือแบรนด์ต้องการจริงๆ
Happy Optimization 🙂

ไม่พลาดทุกบทความ แอดเฟรนด์ Line@ : @pornthep
เพิ่มเพื่อน

One thought on “ตัวอย่าง SEO report ที่ดี ควรมีข้อมูลและโครงสร้างอย่างไร

Leave a Reply