อนาคต Ford เปลี่ยนรถให้เป็น “รถสำราญ” ด้วยความร่วมมือจาก Amazon และ Starbucks

ford-starbucks

ข่าวที่น่าสนใจข่าวหนึ่งเมื่อช่วงปลายเดือนก่อนและผมเองคิดว่าอยากเอามาเล่าต่อ เป็นข่าวที่ไปอ่านเจอในเว็บไซต์ NBC News คือ ข่าวความร่วมมือกันระหว่าง Ford, Amazon และ Starbucks ในการนำเทคโยโลยี่เข้ามาผนวกกันเพื่อสร้างประสบการณ์และบริการใหม่บนรถฟอร์ดที่จะทำให้ผู้ขับขี่สามารถสั่งกาแฟสตาร์บัคได้ด้วยเสียงขณะที่ขับรถฟอร์ดอยู่ ฟังดูแล้วเหมือนจะไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้นชนิดที่ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ แต่ในมุมของ Ford แล้วเรื่องนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นจุดเล็กๆ เท่านั้นสำหรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

Amazon กล่าวอย่างเป็นทางการในงานประชุมผู้ถือหุ้นว่า รถฟอร์ดทุกคันที่จะผลิตภายในปลายปีนี้จะใช้ระบบ Sync3 infotainment ซึ่งทำให้สามารถ Order & Pay กาแฟสตาร์บัค ผ่านการเชื่อมต่อ Amazon Alexa voice assistant ได้ บริการนี้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนรถธรรมดาให้เป็น Connected Car ที่จะนำไปต่อยอดในการสร้างบริการอื่นๆ อีกมากมายภายในไม่กี่ปีนี้ ส่วน VDO ด้านล่างนี้แสดงให้เห็นว่า Connected Car สามารถที่จะทำอะไรได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสั่งให้รถสตาร์ทเครื่องยนต์รอไว้จากภายในบ้าน หรือสั่งให้เปิดไฟหน้าบ้านจากภายในรถยนต์เป็นต้น

ด้านของ Ford, CEO Mark Fields ให้สัมภาษณ์ไว้อย่างน่าสนใจว่า

ฟอร์ดเองขณะนี้ มองตัวเองว่าเป็น “Mobility Company” ไม่ใช่ “Automotive Manufacturing” อีกต่อไปแล้ว

สิ่งที่ฟอร์ดกำลังสนใจและมุ่งมั่นที่จะสร้างคือ Connected Car ที่ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้สื่อสารและติดต่อกับโลกภายนอกได้

แน่นอนว่าทิศทางของ Ford ที่ถูกกำหนดออกมาเช่นนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับแนวโน้มเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับที่เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างที่ชัดเจนมากขึ้นแล้ว และเมื่อรถยนต์ไร้คนขับเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ในชีวิตจริงเมื่อใด รถยนต์ไร้คนขับจะกลายเป็น “Lounge on wheels” หรือ “รถสำราญ” ในทันที เพราะเมื่อผู้โดยสารทุกคนไม่ต้องขับรถแล้ว เวลาที่ใช้อยู่ภายในรถจะกลายเป็นเวลาที่จะใช้ทำอะไรก็ได้ จะทำงาน จะปิคนิค จะช้อปปิ้ง หรือจะทำอะไรก็สามารถทำได้ และมันเป็นเรื่องที่เวิร์คมากๆ โดยเฉพาะกับคนที่ต้องใช้เวลาอยู่บนรถนานๆ (อย่างคนกรุงเทพฯ) Mark Fields กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า Ford จะเร่ิมผลิดรถยนต์ไร้คนขับคันแรกในช่วงปี 2021 ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น ผมเองเชื่อว่าระบบการให้บริการต่างๆ ภายในรถยนต์จะพร้อมสำหรับการผลิต “รถสำราญ” อย่างไม่ต้องสงสัย และตามที่บอกไปการสั่งกาแฟ Starbucks นั้นเป็นเพียงจุดเร่ิมต้นของสิ่งที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น ความน่าสนใจคือนี่จะเป็นช่องทางการสร้างรายได้ทางใหม่ให้กับ Ford ที่ไม่ใช่เพียงการขายรถยนต์และบริการซ่อมบำรุงอีกต่อไปแล้ว ช่างเป็นทิศทางที่น่าสนใจจริงๆ ครับ !

ในฟากของ Starbucks ซึ่งเป็นบริษัทที่มักจะสร้าง Innovation ใหม่ๆ ที่น่าสนใจออกมาเสมอ ก็ยังทำได้น่าสนใจเหมือนเดิม เพราะบริการนี้จะช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าได้อย่างน่าประทับใจ และแน่นอนสร้างรายได้ให้โดยตรง ส่วน Alexa นอกจากช่วยให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อด้วยเสียงผ่านระบบ Voice Assitant แล้วยังสนับสนุนเรื่องการชำระเงินผ่านฟังชั่น Order & Pay ของ Starbucks ได้อีกด้วย

พูดได้ว่าความร่วมมือระหว่าง Ford, Amazon และ Starbucks ในครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก และจะเป็นสิ่งที่สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ผู้ใช้รถยนต์จะได้สัมผัสกันจริงในอีกไม่นานนี้

Leave a Reply