Google Analytics Thailand

บทความนี้มาต่อกันจากบทความก่อนหน้า Keyword Research ขั้นตอนสำคัญในการทำ SEO หลังจากที่กำหนดกลุ่ม keywords ที่เหมาะสมได้แล้ว อาจจะสัก 10-20 คำ สิ่งที่เราจะต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมต่อนั่นก็คือ ความสามารถในการแข่งขัน แน่นอนว่าหาก keyword ของเราจะต้องไปสร้างอันดับแข่งขันกับเว็บไซต์ขนาดใหญ่นั้นก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปได้เลยเสียทีเดียว เพราะยังมีคำหรือวลีประเภท Long-Tail Keywords ที่เว็บไซต์ขนาดใหญ่อาจจะไม่ได้โฟกัสหรือให้ความสนใจอย่างจริงจัง เพียงแต่เราจะต้องหามันให้เจอเท่านั้นเอง

เทคนิคการวิเคราะห์ Keyword เพื่อหาความสามารถในแข่งขันและทำให้ติดหน้าแรก Google ได้ง่ายที่สุด

1. ใช้วิธีค้นหาด้วย keyword ที่เราสนใจผ่าน Google Search เองนั่นแหละครับ แล้วสังเกตุจากผลลัพธ์ 10 อันดับแรกที่แสดงออกมา วิธีการนี้เป็นวิธีการง่ายๆ ที่ใช้ตรวจสอบเบื้องต้นว่า เว็บไซต์ 10 อันดับแรกเป็นเว็บไซต์ที่เราพอจะสามารถแข่งขันได้หรือไม่
2. ดูจำนวนผลลัพธ์ทั้งหมดที่ Google แสดงออกมาว่ามีจำนวนกี่ Page ยิ่งจำนวนผลลัพธ์มีมากเท่าไรแสดงว่ามีเว็บไซต์ที่มี keyword เดียวกันกับที่เราจะทำอยู่มาก วิธีนี้เป็นอีกวิธีที่สามารถตรวจสอบได้ง่ายเช่นกัน แต่ก็อาจจะไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องมากนัก เพราะถึงแม้ว่าจำนวน Search Result ที่แสดงออกมาอาจจะมีไม่มาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะสามารถไปแข่งขันได้ง่ายเสมอไป หาก 10 อันดับแรกที่แสดงออกมายังเป็นเว็บไซต์ขนาดใหญ่และยากที่จะแข่งขันด้วย
3. ใช้ Keyword planner ใน Google Adwords เพื่อหา Competitive Score ต้องบอกว่าวิธีการนี้เป็นวิธีการที่ไม่สามารถใช้บอกความสามารถในการแข่งขันได้เลย ซึ่งมีหลายคนที่เข้าใจผิดอยู่ จริงๆ แล้ว Competitive score ใน Keyword plnaner เป็นตัวเลขที่บอกการแข่งขันกันเฉพาะในการซื้อโฆษณา Adwords เท่านั้น สิ่งที่ keyword planner สามารถบอกคนทำ SEO ได้ และมีประโยชน์คือ keyword ที่เราสนใจนั้นมีปริมาณการค้นหาต่อเดือนเท่าไร คำใดที่เราทำแล้วน่าจะได้ traffic มากกว่ากันเท่านั้นเอง
4. ใช้เครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์ keyword อย่างเช่น Moz’s Keyword Difficulty tool หรือ Long Tail Pro ซึ่งเป็นเครื่องมือทึ่ใช้งานได้ง่ายมาก เพียงแค่ใส่ Keyword ที่ต้องการวิเคราะห์ แล้วทำตามขั้นตอนของแต่ละ Tool ไปเรื่อยๆ

ตัวอย่าง Dashboard ของ Moz’s Keyword Difficulty tool

tool นี้ใช้งานได้ง่ายเพียงกรอก keyword ที่เราสนใจแล้วกด “check difficulty” หลังจากนั้นเราจะเห็นข้อมูลของเว็บไซต์ 10 อันดับแรกจากผลลัพธ์การค้นด้วย keyword คำนั้น พร้อมกับแสดงค่าของ Page Authoriy, Domain Authority และ Backlink ที่ชี้มาที่หน้าของเว็บไซต์เหล่านั้น ตัวเลขเหล่านี้อาจจะพอบอกความสามารถในการแข่งขันได้ในเบื้องต้น และช่วยให้การวิเคราะห์ตัดสินใจทำได้รวดเร็วขึ้น แต่ข้อมูลนี้ก็เป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่งเท่านั้น เรื่องของการจัดอันดับยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย ถ้าจะให้ละเอียดขึ้นก็ควรจะต้องวิเคราะห์ในมุมอื่นๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจด้วย

ตัวอย่าง Dashboard ของ Long tail pro

tool ตัวนี้มีการทำงานคล้ายๆ กับ Keyword Difficulty ของ Moz แต่จะมีข้อมูลที่มากกว่า เช่น Site Age และ Pagerank (ตามข้อมูลที่มี Pagerank ไม่มีการอัพเดทแล้ว หลายบทความจึงระบุว่า Pagerank ไม่ได้เป็นปัจจัยในการจัดอันดับแล้ว) ข้อดีอีกประการและถือเป็นจุดเด่นสำคัญของ Long tail pro คือการมี Suggested Keywords กลุ่มคำประเภท Long tail ที่น่าสนใจมาให้ด้วย ซึ่งทำให้เราสามารถลดขั้นตอนการหา Keywords ลงได้มากทีเดียว

สองเครื่องมือที่แนะนำนี้ (มีค่าใช้จ่าย) จัดเป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวนความสะดวกและลดเวลาในการทำงานลงได้มาก ซึ่งจริงๆ แล้วก็ยังมีเครื่องฟรีอีกหลายตัวที่สามารถดึงข้อมูลเหล่านี้ออกมาได้ แต่บางตัวอาจจะต้องเสียเวลาในการดึงออกมาทีละเว็บไซต์เพื่อมาเปรียบเทียบกัน ก็ลองดูครับว่าอยากจะใช้ตัวไหน ซึ่ง Tools ทั้งสองตัวที่ผมแนะนำนี้ก็มีให้ทดลองใช้ฟรีก่อนตัดสินใจซื้อด้วยเหมือนกัน ส่วนผมเองหลักๆ แล้วยังคงใช้ Keyword Planner รวมกับวิธีการวิเคราะห์ด้วยสายตาจากการคลิ้กเช้าไปดูเนื้อหาของ Top 10 competitor เป็นหลักครับบ 🙂
Happy Optimisation !