
UTM เป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนคงรู้อยู่แล้ว แต่ในรายละเอียดยังมีเรื่องที่ทำให้หลายคนพลาดได้ง่ายๆ เช่น ในกรณีที่มีการบรอดแคสท์ผ่านทาง Line เพื่อโปรโมทแคมเปญโดยมีการใส่ลิงค์ที่ติด utm ตามตัวอย่างด้านล่างนี้ ซึ่งหลายคนอาจจะใช้แตกต่างกันไปตามความคุ้นเคย หรือทำตามตัวอย่างที่เคยมีคนทำไว้ก่อนหน้า ตัวอย่างเช่น
- utm_source=line&utm_medium=broadcast&utm_campaign=…
- utm_source=lineoa&utm_medium=broadcast&utm_campaign=…
บางคนอาจจะเลือกใช้ utm_source เป็น line แต่บางคนอาจจะเลือกกำหนดเป็น lineoa ซึ่งการเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งนั้นไม่ได้มีผิดอะไร และส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าจะใช้อะไร เพราะคิดว่ายังไงก็สามารถวัดผลและตัวเลขได้จากชื่อแคมเปญ (utm_campaign) อยู่แล้ว
แต่ความสำคัญของ utm_source คือมันมักจะมีผลต่อการจัดกลุ่มแชนแนลของทราฟฟิค โดยเฉพาะกลุ่ม Organic Traffic ที่ GA4 จะมีการเตรียมข้อมูลตั้งต้นไว้แล้วว่าทราฟฟิคที่มาจากแต่ละเว็บไซต์นั้นควรจัดลงในแชนแนลใด ซึ่งผมได้เคยเขียนอธิบายไว้ในบทความก่อนหน้านี้ หากต้องการเข้าใจเรื่อง Organic channel ให้มากขึ้น สามารถอ่านและดาวน์โหลดไฟล์ลิสต์ชื่อเว็บไซต์ที่มีการจัดกลุ่มไว้แล้วที่บทความนี้ GA4 จัดกลุ่มทราฟฟิคจากเว็บไซต์ต่างๆ อย่างไร
ถ้าเราทราบแล้วว่าแต่ละเว็บไซต์ถูก Google จัดไว้ใน category ใด เราก็จะรู้และเข้าใจที่มาที่ไปของรีพอร์ทในกลุ่ม Acquisition ได้ดีขึ้น ตามตัวอย่างของ utm ทั้ง 2 แบบที่กล่าวมาแล้วนั้น เวลาที่ GA4 แสดงข้อมูลในกลุ่ม Acquisition ที่มี dimension พื้นฐานเป็น user/session default channel group นั้น
utm_source ที่ใช้ line ทราฟฟิคที่เข้ามา GA4 จะจัดอยู่ในกลุ่ม Organic Social
แต่ถ้าเป็น lineoa ทราฟฟิคจะถูกจัดอยู่ในแชนแนล unassigned
ซึ่งการจัดลงแชนแนลที่ต่างกันนั้นมาจากเหตุผลอย่างที่บอกในบทความก่อนหน้านี้ว่า GA4 มีลิสต์เว็บไซต์ที่มีการจัดกลุ่มประเภทเว็บไซต์แล้วว่าเป็นแชนแนลอะไร ซึ่ง source ที่เป็น line นั้นจะถูกจัดไว้ใน organic social แต่ source ที่เป็น lineoa ไม่ได้ถูกจัดกลุ่มเอาไว้ (ตรงนี้ google คงมองว่า lineoa ที่เรามักจะย่อมาจาก line official account นั้นไม่ใช่ชื่อที่เป็นทางการ) พอ lineoa ไม่อยู่ในลิสต์ของ source ที่เตรียมไว้ GA4 จะนำไปรวมไว้ใน unassigned คือไม่สามารถระบุแหล่งที่มาของทราฟฟิคได้นั่นเอง
ที่อธิบายมานี้จึงเป็นสาเหตุที่หลายครั้งเราจะพบว่าทำไมทราฟฟิคแสดงเป็น unassigned จำนวนมาก และก็ทำให้เราไม่สามารถอ่านทำความเข้าใจรีพอร์ทในระดับ channel ได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นกรณีที่จะมีการโปรโมทผ่าน Line ไม่ว่าจะด้วยรูปแบบใดก็ตาม การใช้ utm_source เป็น line จะทำให้รีพอร์ทแสดงผลได้ถูกต้อง เรียบร้อยเข้าใจง่ายมากกว่านั่นเอง
ถึงตรงนี้น่าจะพอเห็นภาพแล้วว่า แม้ utm จะเป็นเรื่องที่เราคุ้นเคยกันดีแล้ว แต่ก็ยังมีรายละเอียดที่ควรจะต้องใส่ใจ และระมัดระวังในการใช้งานกัน แนะนำให้โหลดไฟล์จากบทความก่อนหน้านะครับ เวลาใช้ source อะไรที่เราไม่แน่ใจ ก็สามารถเอาไปตรวจสอบก่อนได้ครับ
สนใจเรียน GA4 1-day crash course ติดต่อได้ที่ LINE: @pornthep
![]()
ไม่พลาดทุกบทความ แอดเฟรนด์ LINE : @pornthep