เป็นสองคำที่ถูกพูดกันถี่มากตั้งแต่ต้นปี คนที่ไม่คุ้นเคยฟังแล้วก็ค่อนข้างจะเข้าใจยาก และนึกภาพไม่ออก หลายคนเข้าใจว่า AI คือหุ่นยนต์อะไรทำนองนั้น บางทีฟังจากหลายๆ แหล่งย่ิงพาให้งงมากยิ่งขึ้นไปอีก ถ้าให้นึกภาพง่ายที่สุดว่า AI คืออะไร ก็ให้นึกถึง Alpho Go ของ Google หรือไม่ก็รถยนต์ไร้คนขับ ถ้าจะบอกว่ารถยนต์เป็น AI ก็คงจะไม่ใช่ แต่ “ความสามารถ” ที่ใส่เข้าไปในรถเพื่อให้รถขับไปบนท้องถนนได้โดยไม่ชนโน่นนี่ อันนี้แหละครับ AI
บทความหนึ่งใน ThinkwithGoogle ที่เขียนโดย Marvin Chow – VP of Marketing at Google อธิบายเรื่องนี้ได้ง่าย ชัดเจน และเห็นภาพว่าต่อไป AI จะมีผลอย่างไรกับงาน Marketing ข้อความหนึ่งที่ Marvin กล่าวไว้คือ AI และ Machine Learning กำลังเข้าใกล้เป้าหมายในการทำโฆษณาแบบ Personalized หรือเฉพาะเจาะจงต่อบุคคล (โอ้ว โนววว)
AI and machine learning could get us closer to of one of advertising’s most-sought goals: relevance at scale.
AI และ Machine learning คืออะไร (ภาษามนุษย์)
AI คือ ความฉลาด ความสามารถในการตัดสินใจ แก้ปัญหา ที่เทียบเท่าหรือเหนือกว่ามนุษย์ อย่างที่เกริ่นไว้ เช่นความฉลาดในการเล่นโกะ ของ Alpha Go ที่เหนือมนุษย์ไปแล้ว หรือความสามารถในการบังคับรถยนต์โดยไม่ต้องอาศัยคนขับ เป็นต้น แต่การที่ AI ฉลาดได้นั้น แกนสำคัญของมันเลยก็คือ Machine Learning ซึ่งเป็นวิธีการใหม่ที่จะช่วยสร้าง ความฉลาด ขึ้นมาให้กับ AI หรือที่เรียกว่าการ “เทรน” AI นั่นเอง
การเทรน หรือการสอน AI นั้น Marvin ยกตัวอย่างง่ายๆ คือ การสอนให้ระบบแยกแยะภาพหมา และแมว ซึ่งถ้าเป็นการเขียนโปรแกรมแบบปกติเป็นเรื่องยากมากที่จะทำได้ แต่พอเป็น AI แล้ว การเทรนจะใช้การฟีดภาพหมา และแมวจำนวนมากเข้าไป เพื่อให้ระบบจับ Pattern ในระดับ Pixel แล้วทำการทดสอบด้วยภาพใหม่ๆ ให้ระบบตอบว่าถูกหรือไม่ แล้วจึงค่อยๆ ปรับจูนจนความถูกต้องอยู่ในระดับที่สูงที่สุด ซึ่งที่กล่าวมานี้ก็ถูกใช้อยู่ในระบบ Google Photo อยู่แล้ว
Marvin ยังกล่าวอีกว่า AI นั้นกำลังเข้ามามีส่วนสร้างโปรดักส์ใหม่ๆ จากโปรดักส์ของ Google ที่ใช้งานกันอยู่ และสิ่งหนึ่งก็คือ
การทำ Personalized Marketing ที่ก้าวหน้าไปกว่าเดิม เพื่อตอบสนองความต้องการ ความคาดหวังของผู้บริโภคที่สูงกว่าเดิม
และนี่เป็นโอกาสที่ AI จะเข้ามาช่วยนักการตลาด ในการเข้าใจและรู้จักลูกค้าระดับบุคคลจำนวนมากๆ พร้อมกันได้ลึกกว่าเดิม ซึ่งในที่สุดแล้วตัว Ad Platform เองก็จะสามารถทำการสื่อสารแบบ Tailor Campaigns ตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายแบบทันทีทันใด ราวกลับว่านักการตลาดมี Planner เป็นล้านคนอยู่ในมือ (อ่านถึงตรงนี้ชักจะน่ากลัวเหมือนกัน – -“) ลองคิดต่อไปว่าถ้า AI สร้างข้อความหรือภาพ Creative เอง แล้วทำการระบุกลุ่มเป้าหมาย Targeting เองด้วยแล้ว น่าจะเป็นเรื่องสนุกทีเดียวเชียว
ตัวอย่างหนึ่งของ AI machine learning ที่ได้เริ่มใช้ไปกับระบบโฆษณาแล้วก็คือ เครื่องมือที่เรียกว่า Custom Algorithm บนระบบโฆษณา DoubleClick ซึ่งเป็นการใช้ระบบ Machine Learning ในการเพิ่มจำนวนของ Viewable Impression โดยการใช้ข้อมูลย้อนหลังในการวิเคราะห์และส่งโฆษณา (Targeting) หากลุ่มเป้าหมายที่จะมีความสนใจโฆษณานั้นมากที่สุด ซึ่งผลลัพท์ที่ได้ก็ดีกว่าเดิมมาก
และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และกำลังจะเกิดสิ่งใหม่ๆ ขึ้นอีกเรื่อยๆ ต่อจากนี้ ผ่านความสามารถที่มากขึ้นของ AI ในฐานะนักการตลาด นักโฆษณา หรืออะไรก็แล้วแต่ AI จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตเรามากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเราควรทำความรู้จักและติดตามศึกษาเรื่องนี้กันไปเรื่อยๆ เพราะขนาด Machine ยัง Learning เราก็อย่าปล่อยตัวเองให้อยู่กับที่นะครับ
source: thinkwithgoogle.com
Happy Advertising !