วัดผลด้วย GA4 อย่างไร เมื่อทำแคมเปญหาลูกค้าใหม่

ตัวเลข GA4 metric สำหรับวัดผลแคมเปญการตลาดในการหาลูกค้าใหม่

ธุรกิจไม่สามารถเติบโตได้จากการรักษาลูกค้าเก่าไว้เท่านั้น การหาลูกค้าใหม่ให้ได้อย่างต่อเนื่องจึงเป็นอีกหนึ่งโจทย์ที่ต้องทำอยู่ตลอดเวลา หลายคนทราบกันดีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็อีกหลายคนทำไปโดยที่ยังไม่รู้จะวัดผลได้อย่างไรบ้างนอกจากรู้ว่ามีจำนวนลูกค้าใหม่เติบโตขึ้นจากระบบหลังบ้าน ยิ่งไปกว่านั้นบางคนอาจจะทำไปโดยไม่เคยดูตัวเลขด้วยซ้ำ

ตัวเลขวัดผล 2 ตัวสำคัญที่จะพูดถึงในบทความนี้ นับว่าเป็นตัวเลข Metric ใน GA4 ที่เหมาะสมในการวัดผลธุรกิจที่เน้นวัดผลการเข้าถึงกลุ่มคนใหม่ กลุ่มเป้าหมายใหม่ รวมถึง Performance ในการหาลูกค้าใหม่ให้กับธุรกิจ 2 Metric ที่กำลังจะกล่าวถึงนี้มีทั้งแบบสำเร็จรูปพร้อมให้ใช้งาน และแบบที่ต้องสร้างขึ้นเองด้วย Calculated Metric ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ใน GA4 ได้แก่

1) % of New Users

ตัวเลขนี้ทุกคนที่เคยใช้งาน GA เวอร์ชั่น 3 ก็น่าจะเคยเห็นกันอยู่แล้ว แต่ใน GA4 ตัวเลขนี้หายไป และไม่มีให้ใช้งานแบบสำเร็จรูป ซึ่งใครที่ต้องการดูตัวเลขนี้จำเป็นต้องสร้างขึ้นเองด้วย Calculated Metric ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ GA4 เพิ่งปล่อยออกมาได้ไม่นาน โดยที่ตัวเลขนี้ความหมายใน GA คือ สัดส่วนของจำนวน New Users ต่อจำนวน Total Users เป็นตัวเลขที่วัดประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มคนใหม่ กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจที่เป็นคนใหม่ที่ยังไม่เคยเข้าเว็บไซต์เรามาก่อน ตัวเลขนี้จึงเป็นตัวเลขหนึ่งที่ใช้วัด Awareness Campaign รวมถึงเป็นตัวเลขที่ธุรกิจที่ต้องการผู้เข้าใช้งานใหม่ๆต้องดูอยู่เสมอ

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว ตัวเลขนี้จำเป็นต้องสร้างขึ้นเองใน GA4 โดยการเข้าไปสร้างที่ส่วน Admin>Custom definitions กล่าวโดยย่อการสร้าง Calculated metric คือการสร้างตัวเลขวัดผลขึ้นมาใหม่โดยการใส่สูตรคำนวนขึ้นมาเอง ยกตัวอย่างเช่นตัวเลข % of New users ที่กล่าวถึงนี้ ตอนที่สร้างเราก็จะต้องใส่สูตรบวกลบคูณหารขึ้นเองตามตัวอย่างนี้

({New users}/{Total users})*100

การใส่สูตรแบบนี้ก็จะเป็นการบอกให้ GA นำตัวเลข 2 ตัวที่ GA4 มีอยู่แล้วคือ New users และ Total users มาหารและคำนวนเป็นเปอร์เซ็นต์ออกมา ตามภาพตัวอย่างนี้เมื่อสร้างแล้วก็สามารถดึงมาใช้ในใน Exploration Report ได้ทันที

2) First-time purchasers per new user

ตัวเลขนี้เป็นหนึ่งในตัวเลขวัดผลที่ดีมากๆ โดยเฉพาะกับแคมเปญ และธุรกิจ ecommerce ที่เน้นการหาลูกค้าใหม่ (ผู้ซื้อสินค้า) และเป็นตัวเลขที่ GA3 ไม่เคยมีมาก่อน ที่สำคัญเลยก็คือ Metric นี้เป็น Metric ที่ GA4 เตรียมมาให้เราใช้งานอยู่แล้ว (หากมีการทำ Purchase Event ไว้แล้ว) ตัวเลขนี้มีความหมายตามชื่อ Metric เลยก็คือ

สัดส่วนของจำนวนลูกค้าใหม่ต่อจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่เป็นคนใหม่

ซึ่งตัวเลขนี้ยิ่งสูง หมายความว่า แคมเปญและธุรกิจของเราสามารถเข้าถึง New users ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ตรงกลุ่มผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าของเรา ยกตัวอย่างเช่น หากมีผู้ซื้อใหม่ First-time purchasers 40 และมี New users 100 ตัวเลข First-time purchasers per new user ก็จะเป็น 40%

แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องเข้าใจให้ถูกต้องด้วยก็คือ จำนวน First-time purchasers นั้นไม่จำเป็นต้องเป็น New user ในช่วงเวลาเดียวกันก็ได้ หมายความว่า Purchasers บางส่วนอาจจะเป็น New users มาในช่วงก่อนหน้า แต่เพิ่งตัดสินใจซื้อครั้งแรกในช่วงเวลาที่เราดูรีพอร์ทนั่นเอง อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้ก็ถือเป็นตัวเลขที่ดีมากตัวเลขหนึ่งที่เหมาะสมสำหรับการวัดผลประสิทธิภาพการเข้าถึงกลุ่มคนใหม่และทำให้เกิดเป็นลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อครั้งแรก ส่วนภาพตัวอย่างอาจจะเห็นตัวเลขนี้ดูน้อยผิดปกติ (<0.01) เนื่องจากเป็นตัวเลขที่ผมทดสอบจากเว็บส่วนตัวที่ไม่ได้มีการซื้อขายสินค้า

เพิ่มเพื่อน
ไม่พลาดทุกบทความ แอดเฟรนด์ LINE : @pornthep
สนใจคอร์สเรียน Google Analytics 4 หรือ In-house Training อ่านรายละเอียด

Session Conversion Rate และ User Conversion Rate ใน GA4

วิธีการคำนวน session conversion rate และ user conversion rate ใน GA4หลังจากปล่อยให้คนใช้งาน Google Analytics รอคอยกันมานาน ตอนนี้ Conversion Rate ถูกนำกลับมาให้ใช้งานใน GA4 แล้ว แต่การกลับรอบนี้ GA4 ให้ Conversion Rate มาถึง 2 ค่า คือ Session Conversion Rate และ User Conversion Rate โดยที่วิธีการคำนวนนั้นจะแตกต่างกัน และแตกต่างจาก Conversion Rate ใน GA3 เวอร์ชั่นก่อนหน้าด้วย ซึ่งเรื่องนี้จำเป็นต้องทำความเข้าใจ Definition และวิธีการคำนวนให้ถูกต้องจริงๆ  ไม่เช่นนั้นก็อาจจะทำให้ตีความผิดได้ง่ายๆ

Continue reading

ตัวเลขสำคัญในการวัดผลโฆษณาสำหรับอีคอมเมิร์ซ

Metrics ตัวเลขสำหรับการวัดผลโฆษณาที่มีเป้าหมายเพิ่มยอดขายและกำไร

The Arrows Metrics เป็นสไลด์ที่ผมทำขึ้นเพื่อใช้สอนอธิบายความสัมพันธ์ของ Ads Metrics ตลอดหลายปีมานี้ ซึ่งสามารถนำไป apply ใช้ได้กับทั้ง Google Ads, Facebook Ads รวมถึง Ads Platform อื่นๆ ความเข้าใจในเรื่องนี้จะทำให้เราเข้าใจที่มาที่ไปของข้อมูลแต่ละเมทริค และสามารถอ่านวิเคราะห์และนำไปใช้ออปติไมซ์โฆษณาได้อย่างมีหลักการมากยิ่งขึ้น เรื่องนี้จึงถือเป็นเรื่องพื้นฐานสำคัญที่ทุกคนควรต้องรู้และเข้าใจให้มากก่อนที่จะเริ่มออปติไมซ์แคมเปญต่างๆ Continue reading

วัดผล Content Marketing ให้ถูกต้อง ที่ไม่ใช่แค่ยอด View ยอด Like

measure-content-marketing

คำว่า Content Marketing ไม่ใช่เรื่องใหม่และทุกวันนี้ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ฟังแล้วน่าตื่นเต้นอะไร เราต่างยอมรับกันว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นอย่างมากสำหรับการทำการตลาดในปัจจุบันที่ Content มากมายถาโถมเข้าสู่นิวส์ฟีด และที่มันสำคัญก็เพราะว่า มันเป็นสิ่งที่เราใช้เป็น “ตัวสื่อสาร” ส่ิงที่เราอยากจะบอกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความสนใจใคร่รู้โดยไม่ถูกปัดนิ้วผ่านไปอย่างไม่สนใจ ดังนั้นเราในฐานะแบรนด์ไม่ว่าจะสื่อสารออกไปผ่าน Media Channel หรือเราอาจจะเรียกกันว่า Touch Point ไหนก็ตาม มันจะต้องมี “Content” ที่ดีต่อทั้งแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายอยู่ด้วยเสมอ เพียงแต่จะอยู่ในรูปแบบใดเท่านั้นเอง เช่น เสียง ข้อความ บทความ ภาพ วิดีโอ เป็นต้น และด้วยความที่ทุกคนเห็นถึงความสำคัญของการทำ Content ทุกคนจึงมักจะพูดกันบ่อยๆ จนติดปากกับประโยคที่ว่า Content is King Continue reading

5 เมทริคที่ไม่รู้ไม่ได้ เพิ่มยอดขาย e-commerce

success-metrics-eCommerce

บทความนี้เป็นการกลับมาเขียนอีกครั้งในรอบเกือบหนึ่งเดือน ต้องบอกว่าที่หายไปนั้นมีเหตุจำเป็นหลายเรื่องมากๆ ทั้งภาระส่วนตัว และการปรับเปลี่ยนเรื่องสำคัญหลายอย่างในชีวิต โดยเฉพาะการได้รับโอกาสด้านหน้าที่การงานใหม่(ในที่เก่า)

หลายท่านที่ติดตามใกล้ชิดหรือรู้จักเป็นการส่วนตัวอาจจะพอรู้ว่าผมเองเคยทำงานอยู่ที่บริษัท OfficeMate มาค่อนข้างยาวนานก่อนที่จะออกมาทำอยู่ที่ In-house Agency ภายใน Central Group เมื่อประมาณสามปีก่อน

การกลับอยู่ในฝั่งแบรนด์ครั้งนี้ ซึ่งไม่ใช่การเข้าไปร่วมงานในฐานะเอเจนซี่เหมือนสามสี่ปีที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่ต้องปรับตัวอีกครั้ง เพราะถ้าพูดถึงเรื่อง Sense of Ownership แล้วนี่ต่างกันเยอะมาก การกลับมาอยู่ที่ OfficeMate ในครั้งนี้ ส่วนตัวจึงไม่ได้คิดว่าเป็นการกลับไป “อยู่บ้าน” แต่เป็นการกลับไป “สร้างบ้าน” ให้ใหญ่ขึ้นตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาโดยเฉพาะกับงานฝั่ง e-Commerce ดังนั้นบทความนี้จึงถือเป็นการเริ่มต้นไปพร้อมกับบทบาทภาระหน้าที่ใหม่ และจากนี้ก็อาจจะมีบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ e-Commerce แทรกสลับไปมากับ Google Analytics บ้าง ก็อย่าเพิ่งหนีกันไปไหนนะครับ

อย่างแรกที่จำเป็นต้องอธิบายกันให้ชัดเจนกันก่อนคือ เมทริคที่ผมจะพูดถึงในบทความนี้นั้น ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นสูตรสำเร็จชนิดว่าจะทำให้ประสบความสำเร็จในการทำ e-Commerce เว็บไซต์แบบทันทีทันใดนะครับ นั่นเพราะว่ายังมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบจัดส่งสินค้า ระบบชำระเงิน รวมถึงการให้บริการอื่นๆ ที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าด้วย ซึ่งปัจจัยที่ว่ามานี้ ที่จริงแล้วก็มักจะส่งผลย้อนกลับไปที่เมทริคบางตัวโดยตรงอย่างเช่น Repeat Customer Rate (RCR) หรืออัตราการซื้อซ้ำ เพราะหากว่าถ้าลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีในการซื้อสินค้าในครั้งแรกแล้วก็คงจะไม่มีทางกลับมาซื้ออีก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องให้ความสำคัญกับเมทริคที่กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้ เพราะเมทริคเหล่านี้แหละครับมักจะช่วยชี้ช่องให้มองเห็นถึงปัญหาและอุปสรรคที่ทำให้เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของเรายังไม่ประสบความสำเร็จ
Continue reading